วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556

บทที่ 4

บทที่  4
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
                   การวิจัย   เรื่อง ศึกษาสาเหตุการอ่านภาษาอังกฤษไม่ออกของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  โรงเรียนวัดราชโอรสผู้วิจัย ได้นำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลตามลำดับ  ดังนี้
                   ตอนที่  การวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถามซึ่งเป็นแบบตรวจสอบรายการ  (Check list)  วิเคราะห์โดยการหาค่าร้อยละ
                   ตอนที่  การศึกษาเป็นแบบสอบถามความคิดเห็นซึ่งเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale)   5   ระดับ วิเคราะห์โดยการหาค่าเฉลี่ย และความเบี่ยงเบนมาตรฐาน   สำหรับ  เกณฑ์ในการแปลค่าระดับความคิดเห็น  มีดังนี้  (บุญชม  ศรีสะอาด. 2545 : 103)
ค่าเฉลี่ย
ความหมาย
4.51 – 5.00
ปัญหาระดับ มากที่สุด
3.51 – 4.50
ปัญหาระดับ มาก
2.51 – 3.50
ปัญหาระดับ ปานกลาง
1.51 – 2.50
ปัญหาระดับ น้อย
1.00 – 1.50
ปัญหาระดับน้อยที่สุด
                   ตอนที่   3   เปรียบเทียบ
วิเคราะห์การทดสอบค่าที  (t – test)
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
ตอนที่  1          การวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถามซึ่งเป็นแบบตรวจสอบรายการ  (Check list)  วิเคราะห์โดยการหาค่าร้อยละ
ตาราง  2      แสดงจำนวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม  จำแนกตามเพศ

รายการ
จำนวน (คน)
ร้อยละ

ชาย
26
52

หญิง

24
48

รวม
50
100.00

                   จากตาราง  2   แสดงให้เห็นว่า     ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน  50 คน      ส่วนใหญ่
เป็นเพศชายโดยคิดเป็นร้อยละ 52มีเพียงร้อยละ  48เป็นเพศหญิง ตามลำดับ

ตาราง  3 แสดงจำนวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม  จำแนกตามอายุของผู้กรอกแบบสอบถาม

รายการ
จำนวน (คน)
ร้อยละ

ต่ำกว่า13
5
10

14
มากว่า15
36
9
72
18

รวม
50
100.00

จากตาราง  3แสดงให้เห็นว่า ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 50 คน ส่วนใหญ่ที่ตอบแบบสอบถาม อายุ14 ร้อยละ 72 ลองลงมา อายุมากกว่า15 ร้อยละ18 อายุที่กรอกแบบสอบถามน้อยที่สุด ต่ำกว่า13 ร้อยละ 10
ตอนที่   2การศึกษาเป็นแบบสอบถามความคิดเห็นซึ่งเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale)   5   ระดับ วิเคราะห์โดยการหาค่าเฉลี่ย และความเบี่ยงเบนมาตรฐาน   สำหรับ  เกณฑ์ในการแปลค่าระดับความคิดเห็น
ตาราง   4แสดงค่าเฉลี่ย  ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน  และเกี่ยวกับระดับปัญหาเกี่ยวกับผู้สอนจำแนกตามบุคคล

ปัญหาเกี่ยวกับผู้สอน
N  =      คน
ลำดับที่
ระดับ

S.D.






1
สอนไม่เข้าใจ
3.7
0.96
2
มาก
2
สอนเร็วเกินไป
3.6
0.93
4
มาก
3
ไม่มีวิธีการสอนที่สนุกสนานหรือควรปรับเปลี่ยนวิธีการสอนให้น่าเรียนยิ่งขึ้น
3.7
0.94
3
มาก
4
ผู้สอนไม่ฝึกทักษะในการใช้ในชีวิตประจำวัน
3.3
1.04
5
กลาง
5
สื่อสารกันไม่เข้าใจ( ในกรณีที่มีผู้ฝึกสอนจากต่างประเทศ )
4.1
0.97
1
มาก













รวมเฉลี่ย
3.7
0.04

มาก

                   จากตาราง   3   แสดงให้เห็นว่า กลุ่มประชากรส่วนใหญ่ที่ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับ ปัญหาเกี่ยวกับผู้สอนโดยรวมอยู่ในระดับมาก  ( = 3.7)   เมื่อพิจารณาแต่ละรายการ พบว่า อยู่ในระดับ มากที่สุด จำนวน  0รายการ    อยู่ในระดับ มาก   จำนวน  4รายการ    อยู่ในระดับปานกลาง  จำนวน  1รายการ  อยู่ในระดับ น้อย  จำนวน  0 รายการ  อยู่ในระดับ น้อยที่สุด  จำนวน  0รายการ  สำหรับ รายการที่มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุด  คือ สื่อสารกันไม่เข้าใจ( ในกรณีที่มีผู้ฝึกสอนจากต่างประเทศ )( = 4.1)  ส่วนรายการที่มีคะแนนเฉลี่ยน้อยที่สุด  คือ ผู้สอนไม่ฝึกทักษะในการใช้ในชีวิตประจำวัน ( = 3.3)

ตาราง   5แสดงค่าเฉลี่ย  ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน  และเกี่ยวกับระดับปัญหาเกี่ยวกับผู้เรียนจำแนกตามบุคคล

ปัญหาเกี่ยวกับผู้เรียน
N  =      คน
ลำดับที่
ระดับ

S.D.





1.
ผู้เรียนเรียนไม่รู้เรื่อง
3.7
0.96
1
มาก
2.
ไม่สนใจในการเรียน
3.4
0.93
5
กลาง
3.
ไม่มีพื้นฐานในรายวิชาภาษาอังกฤษ
3.4
0.95
4
กลาง
4.
ไม่รู้หลักในการอ่าน
3.3
0.97
7
กลาง
5.
ผู้เรียนมีความรู้มากเท่าไหร่ในรายวิชาภาษาอังกฤษ
3.3
0.84
8
กลาง
6.
วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่น่าเบื่อ
3.6
1.06
2
มาก
7.
ไม่สามารถสะกดได้
3
1.19
9
กลาง
8.
ไม่กล้าถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจ
3.3
1.15
6
กลาง
9.
ไม่ชอบพูดภาษาอังกฤษ
3.4
1.12
3
กลาง



















รวมเฉลี่ย
3.4
0.12

กลาง

                  

จากตาราง   5แสดงให้เห็นว่า กลุ่มประชากรส่วนใหญ่ที่ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับ ปัญหาเกี่ยวกับผู้เรียนโดยรวมอยู่ในระดับกลาง  ( = 3.4)   เมื่อพิจารณาแต่ละรายการ พบว่า อยู่ในระดับ มากที่สุด จำนวน  0 รายการ    อยู่ในระดับ มาก   จำนวน  2รายการ    อยู่ในระดับปานกลาง  จำนวน  6รายการ  อยู่ในระดับ น้อย  จำนวน  0รายการ  อยู่ในระดับ น้อยที่สุด  จำนวน  0รายการ  สำหรับ รายการที่มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุด  คือ ผู้เรียนเรียนไม่รู้เรื่อง (= 3.7)  ส่วนรายการที่มีคะแนนเฉลี่ยน้อยที่สุด  คือ ไม่สามารถสะกดได้ ( = 3)


ตาราง   6แสดงค่าเฉลี่ย  ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน  และเกี่ยวกับระดับปัญหาเกี่ยวกับหนังสือเรียนหรือสื่อการเรียนรู้จำแนกตามบุคคล

ปัญหาเกี่ยวกับหนังสือเรียนหรือสื่อการเรียนรู้
N  =      คน
ลำดับที่
ระดับ
S.D.





1.
ไม่สามารถทบทวนบทเรียนด้วยตนเอง
3.6
1.07
1
มาก
2.
การนำสื่อเทคโนโลยีมาสอนไม่สามารถสร้างแรงจูงใจในการเรียน
3.4
0.95
2
กลาง

รวมเฉลี่ย
3.5
0.09

กลาง

                   จากตาราง  6แสดงให้เห็นว่า ประชากรส่วนใหญ่ที่ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับ ปัญหาเกี่ยวกับหนังสือเรียนหรือสื่อการเรียนรู้โดยรวมอยู่ในระดับกลาง  ( = 3.5)   เมื่อพิจารณาแต่ละรายการ พบว่า อยู่ในระดับ มากที่สุด จำนวน  0รายการ    อยู่ในระดับ มาก   จำนวน  1รายการ    อยู่ในระดับปานกลาง  จำนวน  1รายการ  อยู่ในระดับ น้อย  จำนวน  0รายการ  อยู่ในระดับ น้อยที่สุด  จำนวน  0รายการ  สำหรับ รายการที่มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุด  คือ ไม่สามารถทบทวนบทเรียนด้วยตนเอง ( = 3.6ส่วนรายการที่มีคะแนนเฉลี่ยน้อยที่สุด  คือ การนำสื่อเทคโนโลยีมาสอนไม่สามารถสร้างแรงจูงใจในการเรียน ( = 3.4)





ตาราง   7แสดงค่าเฉลี่ย  ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน  และเกี่ยวกับระดับปัญหาเกี่ยวกับการเรียนในห้องเรียนจำแนกตามบุคคล

ปัญหาเกี่ยวกับการเรียนในห้องเรียน
N  =      คน
ลำดับที่
ระดับ
S.D.





1.
มีเสียงรบกวน
3.3
1.23
1
กลาง
2.
ไม่ได้ยินเสียงสื่อการสอนจากผู้สอน
2.7
1.31
2
กลาง

รวมเฉลี่ย
3
0.06

กลาง


                   จากตาราง   6   แสดงให้เห็นว่า ประชากรส่วนใหญ่ที่ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับ ปัญหาเกี่ยวกับการเรียนในห้องเรียนโดยรวมอยู่ในระดับกลาง  ( = 3)   เมื่อพิจารณาแต่ละรายการ พบว่า อยู่ในระดับ มากที่สุด จำนวน  0รายการ    อยู่ในระดับ มาก   จำนวน  0รายการ    อยู่ในระดับปานกลาง  จำนวน  3รายการ  อยู่ในระดับ น้อย  จำนวน  0รายการ  อยู่ในระดับ น้อยที่สุด  จำนวน  0รายการ  สำหรับ รายการที่มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุด  คือ มีเสียงรบกวน ( = 3.3ส่วนรายการที่มีคะแนนเฉลี่ยน้อยที่สุด  คือ ไม่ได้ยินเสียงสื่อการสอนจากผู้สอน ( = 2.7)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น